พรีวิว : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน
พรีวิว : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน
26 ธันวาคม 2548 6,033
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 22.00 น. วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2548
ผู้ตัดสิน ไมค์ ไรลี่ย์ (ลีดส์)
ถ่ายทอดสด ยูบีซี 40
ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ติดโทษห้ามแข่งเนื่องจากได้รับใบเหลืองครบ 5 ใบ แต่จะได้นักเตะตัวหลักกลับคืนสู่ทีม โดยรุด ฟาน นิสเตลรอย, เวย์น รูนี่ย์, พอล สโคลส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไรอัน กิ๊กส์ และเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ น่าจะได้กลับคืนสู่ทีมทั้งหมดหลังจากไม่ได้ลงเล่นในเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งอลัน สมิธ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมที่พบกับแอสตัน วิลล่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บน่าจะหายกลับมาลงสนามได้เช่นกัน และอาจจะมีชื่อของโอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ อยู่บนม้านั่งสำรอง
เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน จะได้นักเตะกลับมาครบทีม โดยโซลตาน เกร่า กองกลางชาวฮังการีฟิตสมบูรณ์หลังจากการผ่าตัดไส้เลื่อน และสตีฟ วัตสัน กองหลังที่มีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าก็กลับมาลงเล่นได้เช่นกัน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม โฮเวิร์ด, แกรี่ เนวิลล์, ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์, จอห์น โอเชีย, มิเกล ซิลแวสตร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, คีแรน ริชาร์ดสัน, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, อลัน สมิธ, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, ปาร์ค จีซุง, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย, หลุยส์ ซาฮา
เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค, มาร์ติน อัลเบร็ชท์เซ่น, เคอร์ติส เดวี่ส์, นีล คลีเมนต์, พอล โรบินสัน, โจนาธาน กรีนนิ่ง, รอนนี่ วอลล์เวิร์ค, จุนอิชิ อินาโมโตะ, ดิโอมานซี่ คามาร่า, เอ็นวานโก้ คานู, นาธาน เอลลิงตัน, สตีฟ วัตสัน, โซลตาน เกร่า, คริส เคิร์คแลนด์, โรเบิร์ต เอิร์นชอว์, เควิน แคมป์เบลล์, จอฟฟ์ ฮอร์สฟิลด์, ดาร์เรน คาร์เตอร์, ดาร์เรน มัวร์
สัมภาษณ์ก่อนเกม
พอล สโคลส์ กองกลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
“เราคุ้นเคยกับการลงเล่นเกมในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยรู้ว่าเราน่าจะขึ้นนำห่าง 2-3 ประตูหลังจากเกมผ่านไปได้ 20 นาที เราต้องพยายามอย่างหนักที่จะทำแบบนั้นบ่อยมากในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ถ้าเราได้ประตูเร็วมันก็จะช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น และเราจะรู้สึกว่าเราสามารถเดินหน้าต่อไปและทำประตูได้อีก ถ้าเราสามารถปิดเกมได้เร็วตั้งแต่ต้นเกมบางทีเราจะทำประตูเพิ่มได้ง่ายขึ้น”
ไบรอัน ร็อบสัน ผู้จัดการทีมเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน :
“เมื่อคุณผ่านช่วงคริสต์มาสไปคุณจะรู้ไม่มากก็น้อยว่าคุณจะได้อยู่ในตำแหน่งไหน ลีกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนและมันเป็นคำถามที่ว่าคุณจะได้ต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์, ไปเล่นฟุตบอลยุโรป, อยู่ตำแหน่งกลางตาราง หรือดิ้นรนหนีการตกชั้น ดังนั้นถ้าเราทำผลงานในช่วงคริสต์มาสได้ดีคุณอาจจะบอกได้ว่าเราจะต่อสู้เพื่อตำแหน่งกลางตาราง แต่ถ้าเราทำได้ไม่ดีมันก็คงจะเป็นการดิ้นรนหนีการตกชั้น”
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังไล่ล่าแชมป์ 3 รายการในประเทศโดยไม่คำนึงถึงผลงานที่น่าผิดหวังในฟุตบอลยุโรป พวกเขาจะได้ลงเล่นกับแบล็คเบิร์น แบบ 2 นัดเหย้าและเยือนในรอบรองชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ หลังจากเอาชนะในเกมเยือนเบอร์มิงแฮม ของสตีฟ บรูซ ได้ และจะเริ่มลงเล่นเอฟเอ คัพ ในเกมเยือนเบอร์ตัน อัลเบี้ยน ในวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม แต่ที่กำลังจะมาถึงก็คือช่องว่าง 9 คะแนนในพรีเมียร์ชิพ ระหว่างพวกเขาและเชลซี แชมป์เก่า ที่จะลดให้แคบลง พวกเขาจะต้อนรับไบรอัน ร็อบสัน อดีตนักเตะ และทีมเวสต์ บรอม ที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นสู่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นนัดแรกของโปรแกรมการแข่งขันในช่วงฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ เวสต์ บรอม ไม่เคยเอาชนะได้ในเกมเยือนในลีกฤดูกาลนี้ ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติทำผลงานในวันบ็อกซิ่ง เดย์ ได้น่าประทับใจที่สุดจากทุกสโมสร พวกเขาชนะ 8 นัดจาก 9 นัดหลังสุดที่ลงเล่นในวันที่ 26 ธันวาคม แพ้เพียงนัดเดียวให้กับมิดเดิ้ลสโบรซ์ โดยแพ้ไป 1-3 ที่สนามริเวอร์ไซด์ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชนะ 6 นัดจาก 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ และเสมอนัดเดียว พวกเขาทำประตูได้ทุกนัดใน 12 นัดหลังสุด ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดจากทุกสโมสรในฤดูกาลนี้ พวกเขาจะยังเป็นรองจ่าฝูงของตารางไม่ว่าผลการแข่งขันในนัดนี้จะเป็นอย่างไร ก่อนที่จะลงเล่นในเกมเยือนเบอร์มิงแฮม ของสตีฟ บรูซ อีกครั้ง, เกมเหย้าพบกับโบลตัน และเกมเยือนอาร์เซน่อล ของอาร์แซน เวงเกอร์ คู่แค้นเก่าในวันที่ 3 มกราคม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยเอาชนะเวสต์ บรอม มาแล้วในฤดูกาลนี้ โดยเขี่ยพวกเขาตกรอบคาร์ลิ่ง คัพ ด้วยชัยชนะ 3-1 ในรอบที่ 4 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนที่แล้ว ปิศาจแดง ยังไม่เคยแพ้ให้กับเดอะ แบ็กกี้ส์ ในพรีเมียร์ชิพ โดยชนะ 3 นัดและเสมอ 1 นัด ครั้งเดียวที่พวกเขาเสียคะแนนไปก็คือเกมเหย้าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ในฤดูกาลที่แล้ว โดยลูกจุดโทษของโรเบิร์ต เอิร์นชอว์ ในครึ่งหลังเป็นประตูตีเสมอลูกยิงเปิดเกมของไรอัน กิ๊กส์ และกลายเป็นการขัดขวางการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในฤดูกาลนั้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน อาจจะต้องกลับไปอยู่ในโซนตกชั้นถ้าพวกเขาพ่ายแพ้แบบโดนถล่มในนัดนี้ และปอร์ทสมัธ ของแฮร์รี่ เรดแนปป์ คว้าชัยชนะได้อย่างสวยงามในเกมเหย้าพบกับเวสต์ แฮม อดีตสโมสรเก่าของเขา เดอะ แบ็กกี้ส์ ซึ่งเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ชิพ ที่สามารถรอดพ้นการตกชั้นได้สำเร็จหลังจากรั้งอันดับสุดท้ายในช่วงคริตส์มาส ไม่เคยชนะในเกมเยือนในฤดูกาลนี้ ใครจะต่อว่าไบรอัน ร็อบสัน ได้ถ้าเขาทำผลงานได้ไม่ดีในเกมเยือนสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเป็นการคุมทีมนัดที่ 50 ของเขาพอดี ที่จริงแล้วการพ่ายแพ้ในนัดนี้จะเป็นการพ่ายแพ้นัดที่ 50 ของสโมสรในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ชิพ
แม้ว่าผลงานในเกมเยือนในลีกจะย่ำแย่ที่สุด เวสต์ บรอม ก็เริ่มต้นฤดูกาลนี้ในพรีเมียร์ชิพ ได้ดีที่สุด พวกเขาไม่เคยชนะเกมพรีเมียร์ชิพ ในเดือนธันวาคม จนกระทั่งเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ที่สนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ หลังจากเกมนัดนี้พวกเขาจะลงเล่นในบ้านพบกับสเปอร์ส แล้วออกไปเยือนลิเวอร์พูล ก่อนที่จะลงเล่นเกมดาร์บี้ แมตช์ แห่งถิ่นเวสต์ มิดแลนด์ พบกับแอสตัน วิลล่า ที่สนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ เกมในวันบ็อกซิ่ง เดย์ ของเดอะ แบ็กกี้ส์ ไม่มีอะไรน่าจดจำ ชัยชนะครั้งหลังสุดในเกมลีกในวันที่ 26 ธันวาคม เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้วด้วยการเอาชนะพอร์ต เวล ในเกมเหย้าไปได้ 3-2 ในปี 1998 หลังจากนั้นพวกเขาแพ้ 4 นัดและเสมอ 2 นัด
เวสต์ บรอม เสมอ 2 นัดและแพ้ 7 นัดในเกมลีกที่มาเยือนโรงละครแห่งความฝัน นับตั้งแต่ที่พวกเขาเคยคว้าชัยชนะได้ด้วยสกอร์ 5-3 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 1978 ซึ่งผ่านมาแล้วมากกว่า 25 ปี
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 2 มี 37 คะแนน, ชนะเกมพรีเมียร์ชิพ 2 นัดหลังสุด โดยทำได้ 6 ประตูและไม่เสียประตู, ชนะ 6 นัดจาก 8 นัดหลังสุดในทุกรายการ, ชนะ 8 นัดจาก 11 นัดหลังสุดในลีก, แพ้ 1 นัดจาก 11 นัดหลังสุดในลีก, เสียคะแนนใน 6 นัดจาก 17 นัดในลีกฤดูกาลนี้, ทำประตูได้ 16 นัดจาก 17 นัดในลีก เกมเดียวที่ทำประตูไม่ได้คือเกมเยือนลิเวอร์พูล ที่เสมอแบบไร้สกอร์เมื่อวันที่ 18 กันยายน, เป็น 1 ใน 2 สโมสรที่ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวในพรีเมียร์ชิพ ฤดูกาลนี้ อีกสโมสรหนึ่งคือเชลซี, ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวจาก 22 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ, ไม่เสียประตูใน 3 นัดจาก 4 นัดหลังสุดในลีก, ชนะทุกนัดที่เวย์น รูนี่ย์ ทำประตูได้ (ที่ผ่านมา 21 นัด 27 ประตู,ในฤดูกาลนี้ 9 นัด 10 ประตู), ผ่านมาแล้ว 12 นัดในลีกนับตั้งแต่เกมที่เสมอแบบไร้สกอร์, มีฟอร์มการเล่นดีที่สุดจากทุกสโมสรในครึ่งแรกในลีกฤดูกาลนี้ (ขึ้นนำ 10 นัด, เสมอกัน 4 นัด และตามหลัง 3 นัดในช่วงพักครึ่ง), ทำไปแล้ว 50 ประตูใน 28 นัดในทุกรายการในฤดูกาลนี้, มีนักเตะที่ทำประตูได้ในพรีเมียร์ชิพ มากที่สุด (11 คน), เสียประตูในช่วง 5 นาทีแรกของเกมพรีเมียร์ชิพ ฤดูกาลนี้มากกว่าสโมสรอื่น (3 ประตู), อยู่อันดับที่ 2 ของตารางฟอร์มการเล่น 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ ทำได้ 16 คะแนน ตามหลังลิเวอร์พูล ที่ทำได้ 18 คะแนน, ชนะ 3 นัดจาก 4 นัดหลังสุดในทุกรายการที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด, ชนะ 3 นัดและเสมอ 2 นัดในเกมพรีเมียร์ชิพ 5 นัดหลังสุดที่โรงละครแห่งความฝัน, ไม่แพ้ใครในเกมเหย้า 10 นัดในบอลลีกและบอลด้วย, ชนะ 6 นัดและเสมอ 4 นัดในทุกรายการที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่แพ้ให้กับแบล็คเบิร์น 1-2 ในพรีเมียร์ชิพ เมื่อวันที่ 24 กันยายน, แพ้ 1 นัดจากเกมเหย้า 8 นัดในลีกฤดูกาลนี้, ทำประตูได้ทุกนัดในเกมเหย้า 11 นัดหลังสุดในลีก, ทำประตูไม่ได้ในเกมเหย้าเพียงนัดเดียวในลีกนับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ในเกมที่เสมอแบบไร้สกอร์กับแบล็คเบิร์น เมื่อวันที่ 2 เมษายน
เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน อยู่อันดับที่ 17 มี 16 คะแนน, ผลงาน 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ จบลงด้วยการเสมอ, ชนะ และแพ้ ตามลำดับ, ชนะ 2 นัดจาก 5 นัดหลังสุดในลีก, แพ้ 1 นัดจาก 5 นัดหลังสุดในลีก, ทำประตูไม่ได้ 5 นัดจาก 8 นัดหลังสุดในลีก และ 2 นัดจาก 3 นัดหลังสุด, เสียไป 1 ประตูในเกมลีก 3 นัด, ทำประตูแรกในเกมพรีเมียร์ชิพ 5 นัด, นี่เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลในพรีเมียร์ชิพได้ดีที่สุดของสโมสร ก่อนหน้านี้ที่ดีที่สุดคือทำได้ 15 คะแนนจาก 17 และ 18 นัดในฤดูกาล 2002/03 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ชิพ โดยจบลงด้วยการตกชั้น ส่วนในฤดูกาลที่แล้วทำได้ 10 คะแนน, ชนะ 9 นัดจาก 43 นัดในพรีเมียร์ชิพภายใต้การคุมทีมของไบรอัน ร็อบสัน, เป็น 1 ใน 2 สโมสรที่ไม่เคยชนะในเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพ อีกสโมสรหนึ่งคือฟูแล่ม, เสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ซันเดอร์แลนด์ และมิดเดิ้ลสโบรซ์ และแพ้ 5 นัดในเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพ, ไม่ชนะใครในเกมเยือน 12 นัดในลีก เป็นสถิติสูงที่สุดในพรีเมียร์ชิพ, เสมอ 6 นัดและแพ้ 6 นัดในเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพ 12 นัดหลังสุดนับตั้งแต่ชนะชาร์ลตัน ในเกมเยือนไปได้ 4-1 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม, ชนะเพียงนัดเดียวจากเกมเยือน 22 นัดในลีกภายใต้การคุมทีมของไบรอัน ร็อบสัน, มีเกมรุกที่ย่ำแย่ที่สุดในเกมเยือนในลีก โดยทำได้เพียง 3 ประตู, ทำประตูไม่ได้ 6 นัดจากเกมเยือน 8 นัดในลีก, ไม่เสียประตูเพียงนัดเดียวจากเกมเยือน 27 นัดในพรีเมียร์ชิพนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว คือเกมเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เสมอแบบไร้สกอร์ในนัดเปิดสนามของฤดูกาลนี้, ไม่เสียประตู 3 นัดจากเกมเยือน 46 นัดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ชิพ ของสโมสร, ชนะ 4 นัดจากเกมเยือน 46 นัดในพรีเมียร์ชิพ
เกร็ดน่ารู้ของผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำไปแล้ว 15 ประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทุกรายการ ถือเป็นนักเตะในพรีเมียร์ชิพ ที่ทำประตูได้มากที่สุด
ดาวยิงดัตช์แมน ทำไปแล้ว 13 ประตูในลีก นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ชิพ โดยทำได้มากกว่าแฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี อยู่ 2 ประตู
จากนักเตะที่ทำประตูได้ในพรีเมียร์ชิพ ของปิศาจแดง 11 คน มีเพียงฟาน นิสเตลรอย ที่ทำได้มากกว่า 9 ประตู โดยเวย์น รูนี่ย์ ทำไปแล้ว 10 ประตูในทุกรายการ และ 9 ประตูในลีก
คีแรน ริชาร์ดสัน ถูกยืมตัวไปเวสต์ บรอม เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน
รอนนี่ วอลล์เวิร์ก เริ่มต้นการเป็นนักเตะอาชีพกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้าโจนาธาน กรีนนิ่ง ลงเล่น จะเป็นการพบกับอดีตสโมสรต้นสังกัด
ถ้าโจนาธาน กรีนนิ่ง ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม จะเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่ 50 ในพรีเมียร์ชิพ ให้กับเดอะ แบ็กกี้ส์ และนัดที่ 150 ในลีกอาชีพ
โรเบิร์ต เอิร์นชอว์ ขาดอีก 3 ประตูจะทำได้ครบ 100 ประตูในลีกอังกฤษ
เอิร์นชอว์ ขาดอีก 1 ประตูจะทำได้ครบ 100 ประตูในลีกอังกฤษและสก็อต (คาร์ดิฟฟ์, มอร์ตัน และเวสต์ บรอม)
นาธาน เอลลิงตัน ขาดอีก 3 ประตูจะทำได้ครบ 100 ประตูในลีกอาชีพ
ถ้าแอนดี้ จอห์นสัน ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 100 ในลีกสูงสุด
ผลการแข่งขันที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน
วันที่ 7 พฤษภาคม 2005
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์
ผู้ทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด : กิ๊กส์ น. 21
ผู้ทำประตูให้ เวสต์ บรอม : เอิร์นชอว์ น. 63 (จุดโทษ)
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 42 ครั้ง, เวสต์ บรอม ชนะ 37 ครั้ง, เสมอ 25 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3 ครั้ง, เวสต์ บรอม ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 1 ครั้ง
สถิติการพบกันในเกมเหย้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 27 ครั้ง, เวสต์ บรอม ชนะ 11 ครั้ง, เสมอ 14 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 1 ครั้ง, เวสต์ บรอม ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 1 ครั้ง
DaKinG